ครม. ไฟเขียวมาตรการช่วยเหลือชาวนา และเกษตรกรไร่อ้อย

(19 พ.ย. 66) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด  รายงานว่า  ที่ประชุม ครม. ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานประชุม มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือชาวนาและเกษตรกร 2 เรื่อง ได้แก่ ข้าวและน้ำตาล

ครม. เห็นชอบจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาท
ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/2567 (เพิ่มเติม) ตามที่คณะกรรมการบริหารและจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เสนอมาตรการให้เงินช่วยเหลือชาวนา (ค่าเก็บเกี่ยวข้าว) ไร่ละ 1,000 บาท ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท

•    กลุ่มเป้าหมาย -  เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ 
•    วิธีการ - กรมส่งเสริมการเกษตร นำข้อมูลรายชื่อเกษตรกร ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2566/2567 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท 

ทั้งนี้ ได้มีการหารือร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทันทีหลังมีมติออกไป คาดว่าจะดำเนินโครงการได้ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ หรือสามารถจ่ายเงินได้ช้าที่สุดไม่เกิน 
1 เดือน

ครม. เห็นชอบขึ้นราคาน้ำตาลทราย 2 บาท ต่อ ก.ก.

ครม. มีมติเคาะขึ้นราคาน้ำตาล 2 บาท ตามต้นทุนที่มีการปรับตัว ส่วนอีก 2 บาทที่ขอขึ้นเพื่อใช้ในกองทุนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ครม. ยังไม่อนุมัติ โดยขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกันก่อน เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้บริโภคเพียงฝ่ายเดียว 
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ครม. มีมติเห็นชอบให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชนและทุกภาคส่วนที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ ทั้งสินค้ากลุ่มอาหารกระป๋อง เครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่อาจมีการปรับขึ้นราคา

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ย 66 คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ออกประกาศ กำหนดมาตรการ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 
1. ควบคุมราคาน้ำตาลทรายทรายขาวธรรมดา และน้ำตาลทรายขาว บริสุทธิ์ 19 - 20 บาท/กก.
 และ 2. การกำหนดแนวทางควบคุมการส่งออก ตั้งแต่ 1,000 กก. ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 พ.ย 66 ได้มีการประชุมหารือกับตัวแทนชาวไร่อ้อย ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วม 

เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ให้มีปริมาณที่เพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ มีราคาที่เหมาะสม เป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริโภค โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อย ได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมเป็นธรรม 

•    ปรับราคาจำหน่ายหน้าโรงงาน กิโลกรัมละ 2 บาท 
-    น้ำตาลทรายขาว เดิมกิโลกรัมละ 19 บาท ปรับเป็น 21 บาท
-    น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ เดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ปรับเป็น 22 บาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม ครม. คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติให้ยกเลิกประกาศ กกร. ฉบับเดิม 

ทั้งนี้ น้ำตาลทราย ยังคงเป็นสินค้าควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ. ว่าด้วยราคา สินค้าและบริการ พ.ศ.  2542 และ กกร. จะออกประกาศฉบับใหม่ กำหนดเพียง ราคาหน้าโรงงานเท่านั้น ที่ 21 - 22  บาท/กก. ตามมติ ครม. ที่ให้ปรับขึ้น 2 บาท/กก.  ส่วนราคาขายปลีกไม่ได้กำหนด แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาที่สอดคล้อง กับต้นทุน และในส่วนของการส่งออก ไม่ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในแล้ว  เพียงแค่ให้แจ้งปริมาณส่งออก และปริมาณน้ำตาลคงเหลือในสต็อก เพื่อให้กรมการค้าภายใน สามารถติดตามดูแลปริมาณน้ำตาลในประเทศไม่ให้เกิดการขาดแคลน /…
 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar